ถอดรหัส วิตามิน… กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด?

กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด?

เคยไหมคะ.. เคยส่องกระจกสังเกตตัวเอง แล้วรำพึงรำพันถึงการเปลี่ยนแปลงของใบหน้า ผิวพรรณ หรือแม้กระทั่งร่างกายไหมคะ  

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับหน้าเนี้ย ริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำพวกนี้มาจากไหน  

ทำไมหน้าแก่ขนาดนี้ ทั้งที่ฉันอายุแค่นี้เองนะ” 

เมื่อถึงจุดที่คุณอยากสู้กับชีวิต ด้วยการไปซื้อวิตามินหรืออาหารเสริมมาช่วยชะลอวัยและบำรุงร่างกายให้ตรงกับความต้องการแล้ว  แต่ชีวิตสู้กลับ! ด้วยความจริงที่ว่า “ฉันควรกินวิตามินตอนไหนดีที่สุด?” เพราะวิตามินบางชนิดก็มีเวลาในการกินที่เหมาะสม  และวิตามินบางชนิดก็ไม่ได้เกิดมาให้กินคู่กัน วันนี้ BE.U จะมาปลดล็อคศาสตร์แห่งวิตามินให้โลกรู้ กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด? 

วิตามินคืออะไร? 

วิตามิน พบในสารอาหารทั้ง 5 หมู่ ซึ่งเป็นสารอาหารประเภทหนึ่งและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อยแต่ขาดไม่ได้ ส่วนมากวิตามินชนิดต่างๆ ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากการกินอาหาร โดยหน้าที่ของวิตามินจะไม่สามารถให้พลังงานโดยตรงกับร่างกาย แต่ร่างกายต้องได้รับวิตามินเพื่อไปทำหน้าที่เปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน เปรียบเสมือนการทำงานของน้ำมันหล่อลื่นในรถยนต์ ที่เข้าไปขับเคลื่อนฟันเฟืองและช่วยยืดอายุการทำงานของเครื่องยนต์ แม้ว่าจะไม่ได้ให้พลังงานแก่รถยนต์ก็ตาม หากวันหนึ่งที่ร่างกายขาดวิตามิน อาจเกิดอาการเจ็บป่วยที่ไม่พึงประสงค์ได้ค่ะ  

กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด?

วิตามินแบ่งเป็น 2 กลุ่ม 

กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด? ก่อนที่จะกินวิตามินตอนไหนดีที่สุด เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรรู้กันก่อนว่า วิตามินแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มละลายในน้ำ และ กลุ่มละลายในไขมัน 

  1. วิตามินกลุ่มละลายในน้ำ เป็นวิตามินที่ไม่สะสมในร่างกาย จะถูกขับออกทางปัสสาวะ  ได้แก่ วิตามินซี วิตามินบีทุกชนิด ธาตุเหล็ก สังกะสี แคลเซียม 
  2. วิตามินกลุ่มละลายในไขมัน วิตามินกลุ่มนี้ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะวิตามินจะเข้าไปสะสมที่ตับและไขมันทั่วร่างกาย ได้แก่ วิตามิน เอ ดี อี และ เค รวมถึงกลุ่มน้ำมันต่างๆ เช่น น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส และโคเอนไซม์ คิว 10 เป็นต้น 

แล้ว.. กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด กันแน่! 

ก่อนจะกินวิตามิน โปรดคำนึงไว้เสมอ วิตามินแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน การทำงานก็แตกต่างกัน การจับคู่วิตามินก็ส่งผลที่แตกต่างกัน แล้วจะกินยังไงให้ได้ผลดี กินยังไงให้ได้ประโยชน์สูงสุด แล้วต้องกินวิตามินตอนไหนดีที่สุด? ไปดูกันค่ะ 

กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด?

วิธีกิน วิตามินกลุ่มละลายในน้ำ วิตามินกลุ่มนี้มีจะไม่สะสมในร่างกาย จะถูกขับออกทางปัสสาวะภายใน 2-3 ชม. 

วิตามินซี กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด  
วิตามินซี วิตามินตัวท็อปที่คนเลือกกินเพื่อสุขภาพมากที่สุด ทั้งช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด แล้วยังช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวพรรณอีกด้วย แล้วควรกินวิตามินซีตอนไหนดีที่สุด? เราควรกินวิตามินซีหลังอาหารเช้าหรือหลังมื้ออาหารระหว่างวัน ไม่ควรกินวิตามินซีตอนท้องว่าง เพราะวิตามินซีมีกรดที่อาจทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองได้ เนื่องจากวิตามินซีดูดซึมได้ในปริมาณจำกัด หรือดูดซึมได้เพียง 50% จากปริมาณที่เรากินไป และจะถูกขับออกทางปัสสาวะภายใน 2 – 3 ชั่วโมง ดังนั้น ควรแบ่งวิตามินซีกินครั้งละ 500 มก. วันละ 2-3 ครั้ง/วัน แทนการกินวิตามินซี 1,000 มก. เพียงครั้งเดียว หากหวังผลในเรื่องบำรุงผิวพรรณ ชะลอความเสื่อมในระดับเซลล์ ก็สามารถกินวิตามินซีคู่กับคอลลาเจน วิตามินเอ วิตามินอี หรือกลูต้าไธโอน ได้นะคะ 

วิตามินบีทุกชนิด กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด  
วิตามินบีรวม (บี 1, 2, 3, 5, 6, 9 และ 12) มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างพลังงาน เผาผลาญสารอาหาร และช่วยกระตุ้นระบบประสาท ให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า จึงไม่ควรกินวิตามินบีก่อนนอนเพราะอาจทำให้นอนไม่หลับได้ค่ะ แล้วควรกินวิตามินบีตอนไหนดีที่สุด? เราควรกินวิตามินบีหลังอาหารเช้าหรือหลังมื้ออาหารระหว่างวัน ส่วนวิตามินบี 12 ควรกินช่วงท้องว่างจะทำให้ดูดซึมได้ดี เมื่อกินร่วมกับกรดโฟลิกจะช่วยบำรุงเม็ดเลือดด้วยค่ะ  

ธาตุเหล็ก กินตอนไหนดีที่สุด  
แร่ธาตุที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย เสริมภูมิต้านทาน และลดความเสี่ยงของโรคโลหิตจาง โดยเฉพาะสาวๆ วัยที่มีประจำเดือนค่ะ แล้วควรกินธาตุเหล็กตอนไหนดีที่สุด? เราควรกินธาตุเหล็กตอนท้องว่าง ร่างกายจะดูดซึมดีที่สุด แต่ถ้ากินแล้วมีอาการคลื่นไส้อาเจียน สามารถกินธาตุเหล็กหลังมื้ออาหารได้ค่ะ แต่ไม่ควรกินธาตุเหล็กคู่กับวิตามินอี แคลเซียม และสังกะสี เพราะขัดขวางการดูดซึมของธาตุเหล็ก แต่ควรกินธาตุเหล็กคู่วิตามินซีเพราะจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กดียิ่งขึ้นค่ะ 

สังกะสี กินตอนไหนดีที่สุด 
หลายคนอาจจะคุ้นเคยในเรื่องของการรักษาสิว แก้ผมร่วง และยังมีบทบาทสำคัญช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและช่วยต้านการเพิ่มขึ้นของปริมาณเชื้อไวรัสในร่างกายด้วยค่ะ แล้วควรกินสังกะสีตอนไหนดีที่สุด? สังกะสีดูดซึมได้ดีตอนท้องว่าง และควรกินก่อนอาหาร 1 ชม. หรือหลังอาหาร 2 ชม. หากมีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือมีอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร สามารถกินหลังอาหารได้ค่ะ แต่ไม่ควรกินสังกะสีพร้อมแคลเซียมและธาตุเหล็กนะคะ อาหารที่มีวิตามินซีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสังกะสีได้ดีค่ะ 

แคลเซียม กินตอนไหนดีที่สุด  
ต้องดูก่อนว่าเป็นแคลเซียมชนิดไหนนะคะ หากเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต ควรกินหลังอาหารทันที เพราะแคลเซียมชนิดนี้ต้องใช้กรดในกระเพาะช่วยในการแตกตัว ส่วนแคลเซียมซิเตรต ควรกินตอนท้องว่างและกินคู่กับวิตามินดีจะช่วยให้ร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่า และควรเลี่ยงการกินพร้อมยาตัวอื่นๆ เพราะอาจไปลดการดูดซึมของตัวยาต่างๆ ได้ค่ะ 

กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด?

วิธีกิน วิตามินกลุ่มละลายในไขมัน วิตามินกลุ่มนี้ควรกินตามคำแนะนำของแพทย์จะดีที่สุดค่ะ เพราะวิตามินกลุ่มนี้ต้องอาศัยการทำงานของตับเพื่อเปลี่ยนรูป แล้วขับออกทางไต หากกินในปริมาณที่มากเกินไป จะเพิ่มผลเสียให้ตับและไตได้ค่ะ  

วิตามินเอ กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด  
วิตามินเอ วิตามินที่มีส่วนช่วยในการมองเห็น และช่วยการเจริญของเยื่อบุอวัยวะภายในต่างๆ แล้วควรกินวิตามินเอตอนไหนดีที่สุด? สามารถกินก่อนหรือหลังอาหารได้เลย เพราะไม่ได้ส่งผลเรื่องการกัดกระเพาะ แต่ควรกินตามคำแนะนำของแพทย์ ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร 

วิตามินดี กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด  
วิตามินดี วิตามินที่หาได้จากแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าและเย็น มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ป้องกันโรคกระดูกพรุน ทั้งยังช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย แต่ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักเลี่ยงแสงแดด ทำให้ร่างกายรับวิตามินดีไม่เพียงพอ แล้วควรกินวิตามินดีตอนไหนดีที่สุด? ควรกินวิตามินดีระหว่างมื้ออาหาร หรือหลังอาหารเช้าไม่เกิน 30 นาที เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายจะเริ่มดูดซึมสารอาหารและไขมันจากอาหารมาเป็นตัวทำละลาย ให้ร่างกายดูดซึมวิตามินดีได้เต็มที่ และควรเลี่ยงการกินวิตามินดีในตอนเย็น เพราะอาจรบกวนการนอนหลับได้ 

วิตามินดี กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด  
วิตามินดี วิตามินที่หาได้จากแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าและเย็น มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ป้องกันโรคกระดูกพรุน ทั้งยังช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย แต่ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักเลี่ยงแสงแดด ทำให้ร่างกายรับวิตามินดีไม่เพียงพอ แล้วควรกินวิตามินดีตอนไหนดีที่สุด? ควรกินวิตามินดีระหว่างมื้ออาหาร หรือหลังอาหารเช้าไม่เกิน 30 นาที เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายจะเริ่มดูดซึมสารอาหารและไขมันจากอาหารมาเป็นตัวทำละลาย ให้ร่างกายดูดซึมวิตามินดีได้เต็มที่ และควรเลี่ยงการกินวิตามินดีในตอนเย็น เพราะอาจรบกวนการนอนหลับได้ 

วิตามินอี กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด  
วิตามินอี วิตามินที่โด่งดังเรื่องสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ รวมถึงมีประสิทธิภาพในการชะลอริ้วรอยก่อนวัยอันควร ช่วยบำรุงผมและเล็บ และยังมีประโยชน์ด้านความงาม ช่วยบำรุงผิวให้เรียบเนียนสดใส ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง และลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย แล้วควรกินวิตามินอีตอนไหนดีที่สุด? ควรกินหลังมื้ออาหารทันที ทั้งมื้อเช้าและมื้อเย็น เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้เต็มที่ ไม่ควรกินพร้อมยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาต้านไวรัส ยาเคมีบำบัด หรือยากดภูมิ เป็นต้นค่ะ 

วิตามินเค กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด  
วิตามินเค มีด้วยกัน 3 ชนิด คือ วิตามินเค 1 มีส่วนช่วยในการแข็งตัวของเลือด ส่วนวิตามินเค 2 ช่วยในการดึงแคลเซียมเข้าสู่กระดูก ทำงานได้ดีเมื่อกินคู่กับวิตามินดี 3 ช่วยลดกระดูกบางและกระดูกพรุน ส่วนวิตามินเค 3 จะไม่ค่อยส่งผลต่อร่างกายเท่ากับ 2 ชนิดแรกค่ะ ไม่ควรกินวิตามินเคร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด ยาลดกรด ยาปฏิชีวนะ แอสไพริน หรือยารักษาโรคมะเร็ง เป็นต้น เพราะอาจลดการออกฤทธิ์ของตัวยา แล้วควรกินวิตามินเคตอนไหนดีที่สุด? ควรกินวิตามินเคระหว่างมื้ออาหารหรือหลังอาหารไม่เกิน 30 นาที ทั้งนี้ควรรับการตรวจวัดระดับวิตามินก่อน จะได้รู้ว่าเราขาดวิตามินเคตัวไหนนะคะ 

กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด?

กินวิตามินมากเกินไป หรือ กินวิตามินน้อยเกินไป จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย  

สำหรับใครที่พยายามกินวิตามินบำรุงร่างกาย แต่หวังผลเรื่องการชะลอความเสื่อมของร่างกาย ชะลอการเกิดริ้วรอย หรือคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวพรรณ ด้วยการผสมจับคู่วิตามินด้วยตัวเอง หรือกินติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยที่ไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เสี่ยงต่อการที่ร่างกายจะได้รับวิตามินมากเกินไป ในทางกลับกัน หากร่างกายได้รับวิตามินน้อยเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกันค่ะ 

กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด?

เพื่อการบำรุงร่างกาย และดูแลผิวพรรณอย่างปลอดภัย กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด? 

หากต้องการบำรุงร่างกาย กินวิตามินตรงตัวก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าต้องการดูแลเรื่องผิวพรรณ แค่วิตามินซีและวิตามินอีคงไม่พอ ต้องมีผู้ช่วยให้วิตามินทำงานได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด เช่น…  

  • คอลลาเจน โปรตีนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและเสริมความแข็งแรงให้ชั้นผิว เส้นผม ข้อต่อ กล้ามเนื้อต่างๆ ควรกินคู่กับวิตามินซี วิตามินอี และวิตามินเอ 
  • สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส อุดมด้วย Pycnogenol สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ช่วยชะลอความเสื่อมของผิวพรรณ 
  • สารสกัดจากเมล็ดองุ่น อุดมด้วย Proanthocyanidins มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินซี 20 เท่า และมากกว่าวิตามินอี 50 เท่า 
  • L-Glutathione ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย 
  • ALA (Alpha Lipoic Acid) ทำหน้าที่เหมือนวงจรรีไซเคิลวิตามิน ช่วยยืดอายุการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระให้เต็มประสิทธิภาพ 

ถึงแม้ว่า วิตามินเอ จะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ช่วยเสริมการทำงานร่วมกับคอลลาเจน ทั้งยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และช่วยลดอาการอักเสบ โดยเฉพาะสิวอักเสบ แต่หญิงตั้งครรภ์หรือหญิงให้นมบุตร ไม่ควรกินหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อภาวะแท้งหรือทารกพิการแต่กำเนิดได้ค่ะ 

กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด?

ทำไมต้อง BE.U แล้วกินวิตามินตอนไหนดีที่สุด?  

BE.U ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินผิว จากศาสตร์ชะลอวัย ตำรับสมุนไพรอายุวัฒนะ ผสานกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่สำคัญไม่มีวิตามินเอและสารเคมีสังเคราะห์ ตรงเข้าฟื้นฟูและชะลอความเสื่อมระดับเซลล์ผิว ทำให้ริ้วรอยร่องลึกแลดูจางลง จบปัญหาผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำจากแสงแดด คืนผิวนุ่มชุ่มชื้นจากภายใน ช่วยสมานผิวให้เรียบเนียนเต่งตึง ผิวพรรณแลดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ 10 ชนิด ใน BE.U ประกอบด้วย…  

  • คอลลาเจน จะช่วยเสริมปราการให้ผิวแข็งแรงจากภายใน ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและการเกาะตัวของเซลล์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ส่งผลให้ผิวหนังเต่งตึงดูอ่อนเยาว์ เสริมประสิทธิภาพให้เห็นผลเมื่อได้กินคู่กับวิตามินซีและวิตามินอี เนื่องจากวิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำงานคู่กับวิตามินซี ยิ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและชะลอการสลายของคอลลาเจนได้ดี 
  • วิตามินซี ราชินีแห่งวิตามินที่ช่วยเสริมการทำงานร่วมกับสารสกัดตัวอื่นๆ และจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายนำโปรตีนมาสร้างเป็นคอลลาเจน และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสารต้านอนุมูลอิสระให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เผยผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส ช่วยลดการอักเสบของผิว และปกป้องผิวจากรังสี UV 
  • วิตามิน E​ คู่หูวิตามินซี จะช่วยชะลอความเสื่อมและริ้วรอยก่อนวัยอันควร ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยลดอาการผิวอักเสบจากรังสี UV ทำให้ผิวระคายเคืองลดลง พร้อมเผยผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น​อีกครั้ง 
  • สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสียูวี ความเครียด เมื่อกินคู่กับคอลลาเจนที่ผสมใน BE.U จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ชะลอการเกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ บำรุงเลือด และช่วยลดอาการชาตามปลายมือปลายเท้า 
  • สารสกัดจากเมล็ดองุ่น สารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์มากกว่าวิตามินซี 20 เท่า และมากกว่าวิตามินอี 50 เท่า กินคู่วิตามินซีจะช่วยเสริมการทำงานของคอลลาเจน ช่วยชะลอความเสื่อม เพิ่มความแข็งแรงให้กับคอลลาเจน อีลาสติน และผนังหลอดเลือด และลดการอุดตันของหลอดเลือดดำ 
  • L-Glutathione ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำจากแสงแดด หากกินคู่วิตามินซีจะช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานิน พร้อมปรับผิวให้เรียบเนียนกระจ่างใส ช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย 
  • ALA (Alpha Lipoic Acid) ตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวิตามิน และเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกาย เมื่อทำงานร่วมกับสารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส จะช่วยลดการเสื่อมสลายของคอลลาเจน ผิวแข็งแรงไม่ไวต่อแสงแดด และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด  
  • มะเขือเทศ อุดมด้วย Lycopene สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันแสงแดดไม่ให้ทำลายผิว เมื่อทำงานร่วมกับวิตามินอีจะช่วยลดอาการผิวไหม้แดดและเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นผิว คืนผิวกระจ่างใสสุขภาพดี 
  • รำข้าวโอ๊ต​ ช่วยล็อคผิวอิ่มน้ำให้ดูเปล่งปลั่ง ช่วยปรับสมดุลภายใน ส่งผลให้ผิวกระจ่างใสสุขภาพดี​ 
  • รำข้าว ช่วยชะลอความเสื่อมระดับเซลล์ ช่วยบำรุงโลหิต ผิวอ่อนเยาว์ชุ่มชื้น นุ่มลื่นเรียบเนียนน่าสัมผัส 
กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด?

กินวิตามิน BE.U ตอนไหนดีที่สุด 

เนื่องจาก BE.U มีสารสกัดธรรมชาติหลายชนิด ทั้งวิตามินกลุ่มละลายในน้ำและวิตามินกลุ่มละลายในไขมัน ควรกินวิตามินตอนไหนดีที่สุด? เพื่อเป็นการดูดซึมที่ดีที่สุด ควรกิน BE.U หลังอาหารเช้าทันที เพราะตอนเช้าระดับฮอร์โมนสูงสุด สามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีที่สุด หรือจะกิน BE.U พร้อมน้ำหรือพร้อมมื้ออาหารได้เช่นกัน แต่ถ้าใครลืมกิน BE.U ตอนเช้า​ สามารถกินระหว่างวันหรือก่อนนอนได้เหมือนกัน เพราะ BE.U เป็น Super Antioxidants จากธรรมชาติ กินง่ายปลอดภัย ดูดซึมไว ไร้ผลข้างเคียงค่ะ 

นอกจากงานผิว BE.U ยังช่วยบำรุงร่างกายในด้านต่างๆ ดังนี้ 

  • ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ด้วยวิตามินซีบริสุทธิ์ เซลล์ผิวอ่อนวัย อวัยวะทุกส่วนแข็งแรง 
  • ช่วยปรับสมดุลภายในร่างกาย ช่วยให้เซลล์ต่างๆ ซ่อมแซมตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • ป้องกันความเสื่อมของร่างกาย ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากสารสกัดธรรมชาติเกรดพรีเมียม 100% และช่วยลดความเสียหายของการเกิดมะเร็ง 
  • ช่วยระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้น รูปร่างกระชับขึ้น เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ  
  • เสริมสร้างการทำงานของร่างกาย เผาผลาญน้ำตาล ไขมัน และพลังงานส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • ผิวหนังแข็งแรง ต้านทานการเผาไหม้ของแสงแดดได้ดี ซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น 
  • ช่วยให้ผิวสุขภาพดีขึ้น เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง เพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว เผยผิวเนียนนุ่มกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ​ 
กินวิตามินตอนไหนดีที่สุด?

พี่น้องมุสลิมมั่นใจ! BE.U มี ฮาลาล รับรอง 

  • BE.U ได้รับเครื่องหมายฮาลาลรับรอง 
  • BE.U ไม่มีส่วนผสมของแป้ง น้ำตาล สเตียรอยด์ และสารเคมีสังเคราะห์​ สามารถรับประทานติดต่อกันได้ ไม่เป็นอันตรายต่อตับและไต​ 
  • ผลิตจากโรงงานมาตรฐาน GMP​ ได้รับเครื่องหมายรับรองทั้ง ฮาลาล และ อย.​ 
  • ได้รับรางวัลสุดยอดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อผิวอ่อนเยาว์ จากเวที PRAEW ICONIC BEAUTY 2021