ฝ้า & กระ แตกต่างกันอย่างไร

ฝ้าและกระ ปัญหาผิวที่เกิดจากการที่เมลานินเม็ดสีผิวเยอะเกินไปจนทำให้มีรอยเข้ม ดำๆ ด่างๆ เกิดขึ้นบนใบหน้า ทำให้ขาดความมั่นใจสุดๆ แถมทั้งสองอย่างนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้พร้อมๆ กันด้วยนะคะ บางคนแยกไม่ค่อยออกว่าอันไหนฝ้า อันไหนกระ เพราะมีเต็มหน้าไปหมด ไปดูกันค่ะ… ว่าฝ้ากับกระต่างกันยังไง

ความแตกต่างของฝ้ากับกระ จริงๆ แล้วสังเกตค่อนข้างง่ายนะคะ เพราะทั้ง 2 อย่างนี้มีลักษณะไม่เหมือนกัน โดยฝ้าจะมีลักษณะเป็นแผ่นปื้นๆ ใหญ่ๆ มีสีน้ำตาลเข้มกว่าสีผิวปกติของเรา ซึ่งฝ้าแบ่งออกเป็น 2 ชนิดด้วยกันคือฝ้าแบบตื้นที่เกิดขึ้นบริเวณชั้นหนังกำพร้า และฝ้าแบบลึกที่เม็ดสีผิดปกติอยู่บนชั้นหนังแท้ มีสีเข้มกว่าแบบตื้น

ส่วนกระนั้นมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ กระจายอยู่ตามใบหน้า เกิดได้บนชั้นผิวหรือชั้นหนังกำพร้า มีสีน้ำตาลอ่านๆ หรือเข้มกว่าสีผิว มีแบบกระธรรมดา อย่างกระเด็ก กระแดด และมีแบบไม่ธรรมดาที่มีลักษณะเข้มๆ มีเนื้อนูนขึ้นมาเยอะ พบในคนที่มีอายุมากขึ้น ถ้าพบกระแบบไม่ธรรมดานี้ขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และมีเลือดไหลออกมาบ่อยๆ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ผิวหนังนะคะ เพราะนั่นอาจจะไม่ใช่กระและอาจก่อให้เกิดอันตรายได้

แม้ฝ้าและกระจะมีลักษณะหน้าตาที่ไม่เหมือนกัน แต่สาเหตุการเกิดหลักๆ มาจากแสงแดดเป็นหลักเหมือนกันเลยค่ะ เพราะรังสี UV จะกระตุ้นให้มีการผลิตเม็ดสีผิวมากขึ้น มากจนผิวบริเวณนั้นมีสีเข้มขึ้น กลายเป็นฝ้าและกระ นอกจากนี้ การทำอาหารอยู่หน้าเตาไฟบ่อยๆ ก็ทำให้มีฝ้าและกระได้ รวมไปถึงฮอร์โมนในร่างกายที่ผิดปกติ ก็อาจส่งผลให้เกิดได้เช่นกัน

การเกิดฝ้าและกระบนใบหน้า ไม่ว่าจะมีมากมีน้อยถือเป็นเรื่องธรรมชาติของผิวเราเลยค่ะ แถมยังสามารถเกิดขึ้นตามบริเวณลำตัวได้อีกด้วย เช่น แขนและเนินอก แต่ถ้าไม่มีเลยหรือมีให้น้อยที่สุดน่าจะดีกว่าสำหรับผู้หญิงอย่างเราๆ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญแดดโดยไร้การป้องกันใดๆ ทั้งสิ้น แนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มี SPF สูงก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง หรือถ้าใครอยากแถมด้วยร่ม หมวก แว่นกันแดด และเสื้อคลุมก็ไม่ว่ากันค่ะ

ส่วนคนที่ฝ้าหรือกระได้ทำการแจ้งเกิดบนใบหน้าแล้ว ก็ยังต้องทาครีมกันแดดก่อนออกแดดเหมือนกันนะคะ เพื่อไม่ให้เป็นหนักกว่าเดิม และควรใช้ครีมบำรุงที่ช่วยลดฝ้ากระเป็นประจำ หรือรักษาโดยแพทย์ผิวหนังก็ได้ค่ะ