UV Aging คำที่ต้องรู้ ถ้าอยากกู้ผิวสวย!!

รู้หรือไม่ ว่า 80% ของปัญหาผิว ไม่ว่าจะผิวคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือริ้วรอยก่อนวัย ล้วนมาจากรังสี UV ทั้งนั้นเลย ที่สำคัญรังสี UV อยู่ใกล้ตัวเรามากๆ บางทีแค่เราเดินออกไปหาอะไรกินนอกบ้าน นอกออฟฟิศ ก็เจอ UV แล้ว หรือบางคนนั่งหน้าคอมนานๆ ก็สามารถโดนเจ้า UV จากคอมพิวเตอร์ได้เช่นกัน…  แล้วไอ้เจ้า UV Aging คืออะไรกันนะ? ทำให้ผิวเราถูกทำลายได้ยังไง? และจะป้องกันปัญหาผิวจากเจ้า Photo Aging นี้ได้อย่างไร? มาดูกันเลยค่ะ!

UV Aging คืออะไร…เกิดจากอะไร…และทำร้ายผิวเราได้อย่างไรกันนะ?

UV Aging หรือเรียกได้อีกอย่างว่า Photo Aging คือ “การแก่ก่อนวัย” หรือ การเปลี่ยนแปลงและการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวหนังนั่นเอง ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่ผิวหนังได้รับรังสี UV มากเกินไปจนทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น สีผิวไม่สม่ำเสมอ จุดด่างดำ กระ ฝ้า ผิวหยาบกร้าน ผิวไม่กระชับเต่งตึง หรือแม้แต่สิว

UV Aging ทำลายผิวเราได้อย่างไร?

รังสี UV ทำให้เกิดปัญหาผิวเพราะ UV จะเข้าไปทำลายโครงสร้างผิวหนังของเรา อีกทั้งยังไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตสารอนุมูลอิสระมากกว่าปกติอีกด้วย ปกติแล้วผิวหนังของคนเรานั้นจะประกอบไปด้วย 3 ชั้น คือ ชั้นหนังเทียม ชั้นหนังแท้ และชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งรังสี UV คือศัตรูตัวฉกาจที่สามารถสร้างปัญหาให้ผิว ทั้งชั้นหนังแท้ และชั้นหนังเทียม

มาเริ่มกันที่ ชั้นหนังเทียม หรือเรียกอีกอย่างว่า ชั้นหนังกำพร้า เป็นผิวหนังชั้นนอกสุดของร่างกายและเป็นชั้นที่ประกอบด้วยเม็ดสีเมลานิน รังสี UV จะเป็นตัวการหลักที่มากระตุ้นให้เม็ดสีเหล่านี้ถูกสร้างมากผิดปกติ จนผิวหมองคล้ำ บางคนก็เกิดเป็น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่สำคัญ UV ยังเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง อนุมูลอิสระ (อนุมูลอิสระคืออะไรดูได้ที่ http://bit.ly/2BwPYAO) ออกมามากกว่าปกติอีกด้วย

ถัดเข้ามาคือชั้นหนังแท้ ผิวหนังชั้นนี้คือชั้นโครงสร้างของผิว หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เป็นเสาที่คอยพยุงผิวหนังให้คงสภาพ ยืดหยุ่น เด้งดึ๋ง ไม่หย่อนคล้อย เพราะประกอบไปด้วยโปรตีนไฟเบอร์หลายชนิด ได้แก่ คอลลาเจน อีลาสติน และกรดไฮยาลูรอนิค ที่ประสานกันกลายเป็นโครงสร้างคอยพยุงผิวหนังให้นุ่มฟู แข็งแรง ไม่หย่อนคล้อย หากโครงสร้างโปรตีนถูกทำลาย ผิวหนังก็จะหย่อนยาน เกิดร่องลึก จากชั่วคราวกลายเป็นถาวร ซึ่งรังสี UV และอนุมูลอิสระนี่แหละคือตัวการหลักที่เข้ามาทำลายโครงสร้างโปรตีนเหล่านี้ UV Aging จึงส่งผลให้เรา “แก่ก่อนวัย”

มีวิธีป้องกัน UV Aging ได้อย่างไร?

สำหรับวิธีป้องกันและรับมือกับ UV Aging นั้น สามารถแบ่งได้เป็น 2 วิธีใหญ่ๆ คือ การป้องกัน UV ภายนอก และการป้องกันจากภายในไปพร้อมกับการฟื้นฟูโครงสร้างโปรตีนส่วนที่ถูกทำลายไปแล้ว

การป้องกันภายนอก : เป็นวิธีพื้นฐานที่ช่วยให้ผิวเราหลีกเลี่ยง หรือลดโอกาสที่จะถูก UV ทำร้าย ซึ่งสามารถทำได้ง่าย รวดเร็ว และจำเป็นต้องทำอย่างยิ่งยวด!!

  1. ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
  2. สวมหมวก หรือกางร่มเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง

แต่!!! การปกป้องผิวแค่ภายนอกก็ไม่สามารถช่วยฟื้นฟูส่วนที่ถูกทำลายไปแล้วนะคะ

เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการป้องกันจากภายใน + ฟื้นฟูโครงสร้างโปรตีนที่ถูกทำลายไปแล้ว

  1. รับประทานผัก ผลไม้ เพื่อเพิ่มสาร Antioxidant ให้ผิวแข็งแรง สามารถรับมือกับอนุมูลอิสระจากแสงแดด
  2. รับประทานอาหารเสริม Antioxidant เพื่อเพิ่มให้ผิวแข็งแรง ทวีความสามารถในการกำจัดอนุมูลอิสระ เพื่อป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และผิวหมองคล้ำ (หรือสำหรับคนที่ได้รับ Antioxidant จากการรับประทานไม่เพียงพอ อาหารเสริมนี่แหละ ตัวช่วยสำคัญเลย)

Antioxidant หัวใจหลักในการกู้ผิวสวย

การเติม  “สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)” ให้กับผิว คือหัวใจหลักที่ช่วยให้ผิวของเรารับมือกับศัตรูที่จะมาทำร้ายผิวได้ อย่างที่บอกไว้ว่าการทาครีมกันแดด หรือ การหลีกเลี่ยงรังสี  UV ไม่สามารถช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวที่ถูกทำลายไปแล้วได้ ดังนั้นใครที่ต้องการกู้ผิว ให้กลับมาเต่งตึง ยืดหยุ่น กระชับ ไม่มีริ้วรอย ก็จำเป็นที่จะต้องเสริม Antioxidant ให้กับผิว เพื่อให้ผิวเราสามารถสู้กับสารอนุมูลอิสระที่จะมาทำลายโครงสร้างโปรตีน ผิวของเราจึงแข็งแรง แน่น เนียน กระชับ ไม่เกิดริ้วรอยก่อนวัยนั่นเอง

แล้ว…เราจะเติม Antioxidant ได้อย่างไร?? โดยปกติแล้ว ร่างกายของเราจะมีการสร้าง Antioxidant เองอยู่แล้ว รวมทั้งได้รับจากการรับประทานอาหาร แต่เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็จะผลิต Antioxidant ได้น้อยลง อาหารที่เรารับประทานเป็นประจำก็อาจให้ Antioxidant ไม่เพียงพอ แถม lifestyle ของบางคนอาจทำให้ร่างกายต้องการ Antioxidant มากกว่าปกติ การรับประทานอาหารเสริมที่มี Antioxidant จึงกลายเป็นหัวใจหลักในการกู้ผิวสวยเลยล่ะค่ะ

นอกจากนี้ อาหารเสริมยังให้คอลลาเจน (หนึ่งในโปรตีนในชั้นหนังแท้) จึงเท่ากับเป็นการเสริมโครงสร้างโปรตีนให้กับผิวอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารเสริมจะได้ผลดีก็ต่อเมื่ออาหารเสริมชนิดนั้นมีวิตามิน และสารอาหารชนิดอื่นๆ ที่ช่วยทำให้ Antioxidant และ Collagen สามารถเข้าไปทำงานได้จริงๆ

BE.U อาหารเสริมจากศาสตร์ชะลอวัย และตำรับอายุวัฒนะ